RIBBON SEAL

RIBBON SEAL แมวน้ำริบบิ้น ตราริบบิ้นเป็นตราประทับขนาดกลางจากตระกูลตราประทับที่แท้จริง เสื้อคลุมสำหรับผู้ใหญ่มีพื้นหลังสีเข้มล้อมรอบด้วยแถบสีอ่อนสี่แถบ แถบหนึ่งพาดรอบคอและรอบส่วนกลางหลังของตัวแมวน้ำ ส่วนแถบอื่น ๆ จะเริ่มที่หน้าท้องและไปรอบ ๆ ครีบด้านหน้าในแต่ละด้าน แม้ว่าตราริบบ้อนทั้งหมดจะมีรูปแบบทั่วไปนี้ แต่ก็มีความแตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับตำแหน่งที่แม่นยำและเฉดสีของแถบ ทารกและวัยรุ่นไม่มีรูปแบบดังกล่าว เด็กแรกเกิดมีสีขาวสนิท และแมวน้ำเด็กและเยาวชนมีสีเข้มที่ด้านหลังและด้านหน้า และสีเทาที่หน้าท้องและด้านหลัง ผู้ชายมักจะมีสีเข้มกว่าผู้หญิง แมวน้ำริบบิ้นมีตาโตและฟันเล็ก

RIBBON SEAL แมวน้ำริบบิ้น ตราริบบิ้นเป็นตราประทับขนาดกลางจากตระกูลตราประทับที่แท้จริง เสื้อคลุมสำหรับผู้ใหญ่มีพื้นหลังสีเข้มล้อมรอบด้วยแถบ

BAR-TAILED GODWIT

RIBBON SEAL ลักษณะและที่อยู่อาศัย

แมวน้ำริบบิ้นเป็นสัตว์กินเนื้อ (piscivores) เมื่อยังเป็นวัยรุ่น พวกมันกินกุ้งเป็นหลักเช่นเดียวกับสัตว์จำพวกครัสเตเชียนขนาดเล็กอื่นๆ แมวน้ำที่โตเต็มวัยจะกินปลาหมึก กุ้ง และปลา ในทะเลโอค็อตสค์และทะเลแบริ่ง ใกล้ทางตอนใต้ของรัสเซีย ทางตอนเหนือของญี่ปุ่นและเกาหลี แมวน้ำเหล่านี้ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในน้ำเย็น ชอบน้ำลึกมากกว่า หายากที่จะเห็นพวกมันบนบก ดูเหมือนว่าพวกเขาจะชอบน้ำแข็งสีขาวที่ค่อนข้างหนา มั่นคง สะอาด และมีพื้นผิวเรียบ

ริบบิ้นผนึกอาหารสัตว์ในเวลากลางคืน พวกเขามักจะโดดเดี่ยว แต่บางครั้งก็เป็นกลุ่มเล็ก ๆ เวลาส่วนใหญ่อยู่ในน้ำเพื่อหาอาหารหรือเคลื่อนที่ไปมาระหว่างพื้นที่ผสมพันธุ์กับบริเวณที่มีน้ำแข็งทะเลเบาบาง ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ แมวน้ำทุกวัย ทุกเพศ และทุกขนาดจะพบอยู่ด้วยกัน ฤดูผสมพันธุ์และฤดูลอกคราบคาบเกี่ยวกัน ทั้งคู่เกิดขึ้นในช่วงที่น้ำแข็งแตกตัวในฤดูใบไม้ผลิ ตัวเต็มวัยมาที่น้ำแข็งเพื่อผสมพันธุ์ และตัวเล็กๆ จะใช้เป็นสถานที่ลอกคราบ เมื่อแมวน้ำเหล่านี้รู้สึกว่าถูกคุกคาม พวกมันจะสแกนพื้นที่ด้วยสายตานานกว่าแมวน้ำตัวอื่นมาก ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อสัตว์เหล่านี้คือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอันเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน ซึ่งอาจส่งผลต่อการกระจายตัวของน้ำแข็งขั้วโลก ภัยคุกคามอื่นๆ ได้แก่ ผลกระทบของมนุษย์จากน้ำมันรั่วไหล การเก็บเกี่ยวประจำปี และผลพลอยได้

บทความโดย : แทงบอล

 * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *  * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *