HYACINTH MACAW

HYACINTH MACAW นกแก้วมาคอว์สายพัธ์นี้เป็นนกแก้วที่ลำตัวยาวที่สุดในโลก พวกมันมีขนสีน้ำเงินโคบอลต์ที่น่าประทับใจ ซึ่งตัดกับขอบตาสีเหลืองเปล่า (ซึ่งในมาคอว์สายพันธุ์อื่นจะเป็นสีขาว) และผิวหนังเป็นหย่อมสีเหลืองข้างปากล่าง ไอริสของพวกเขามีสีน้ำตาลเข้มและเท้าของพวกเขาเป็นสีเทาเข้ม ผู้หญิงและผู้ชายแทบจะแยกไม่ออก แต่โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงจะเรียวกว่าเล็กน้อย ในรุ่นเยาว์หางสั้นกว่า

HYACINTH MACAW นกแก้วมาคอว์สายพัธ์นี้เป็นนกแก้วที่ลำตัวยาวที่สุดในโลก พวกมันมีขนสีน้ำเงินโคบอลต์ที่น่าประทับใจ

EURASIAN WREN

HYACINTH MACAW ไฮยาซิน มาคอว์

นกมาคอว์ไฮยาซินธ์มีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลางและตะวันออกของอเมริกาใต้ และปัจจุบันอาศัยอยู่เพียงสามพื้นที่ที่แตกต่างกัน ได้แก่ แพนตานัล พื้นที่ตามธรรมชาติของบราซิล โบลิเวีย และปารากวัย นกมาคอว์พบได้ตามหนองน้ำปาล์ม ป่าไม้ และที่อยู่อาศัยกึ่งป่ากึ่งโล่งอื่นๆ พวกเขามักจะหลีกเลี่ยงป่าทึบและชื้น และมักจะอาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าสะวันนา ป่าหนามแห้งที่เรียกว่า ‘caatinga’ และต้นปาล์ม

เป็นนกที่ชอบเข้าสังคมมาก พวกมันสามารถเห็นได้ตามลำพัง แต่มักจะรวมกันเป็นกลุ่มได้ถึง 4 ตัว พวกมันมักพบเป็นฝูงใหญ่ตั้งแต่ 12 ถึง 20 ตัว ซึ่งมักจะเป็นคู่และสามตัวในตระกูล (พ่อแม่ลูกและลูก) พวกมันออกหากินในช่วงเช้าและบ่ายแก่ๆ และบางครั้งก็ออกหากินในคืนเดือนหงาย ในช่วงที่อากาศร้อนพวกเขาพักผ่อน คู่อยู่ใกล้กัน เมื่อถูกรบกวนพวกมันบินออกจากท้องฟ้าไปบินวนเหนือยอดไม้ ส่งเสียงดัง พวกมันเป็นนกที่มีเสียงดังมาก

พวกมันเป็นนกที่กินพืชเป็นอาหาร พวกมันกินถั่วจากปาล์มบางชนิดเป็นหลัก เช่น ต้นอะคุริและโบไกอูวา และกินเมล็ดพืชและผลไม้หลากหลายชนิด เป็นสัตว์ที่มีคู่สมรสคนเดียวและมักจะอยู่กับคู่เดียวตลอดชีวิต ออกลูกฤดูกาลละ 1 ตัว ไม่ได้ออกลูกทุกปี ผสมพันธุ์หลังฤดูฝน คือ กรกฎาคมถึงธันวาคม ทำรังตามหน้าผาหรือโพรงไม้แล้วแต่จะหาได้ วางไข่ 1 หรือ 2 ฟอง

ฟองที่สองช้ากว่าฟองแรกหลายวัน ตัวเมียจะฟักไข่ประมาณหนึ่งเดือนและตัวผู้จะนำอาหารมาให้ในช่วงเวลานี้ ลูกนกจะฟักเป็นตัวประมาณ 4 เดือนหลังจากฟักเป็นตัว บ่อยครั้งที่ลูกนกตัวเล็กตาย ดังนั้นมีเพียงตัวเดียวที่รอดชีวิต ลูกนกจะอยู่กับพ่อแม่ประมาณ 6 เดือน และพ่อแม่ทั้งสองก็ให้อาหารมัน นกเหล่านี้ถึงวัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 7 ถึง 10 ปี

สนับสนุนโดย : แทงบอล

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *  * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *