Haast s eagle
Haast s eagle เป็นอีกหนึ่งในนกอินทรีสายพันธุ์หนึ่งและบอกไว้ก่อนเลยนะครับว่า นกอินทรีสายพันธุ์นี้นั้นได้สูญพันธุ์ไปแล้วนะครับ หลายๆท่านที่เคยไปพิพิธภัณฑ์อาจจะเห็นเห็นกับนกอินทรีสายพันธุ์นี้กันมาบ้าง
ในคราวที่แล้วนั้นเราได้มีการบอกเล่าเรื่องราวของนกอินทรีหางขาวกันไปแล้ว วันนี้เราจึงกลับมาต่อกันในซีรี่ย์ของนกอินทรีกัน วันนี้เราจะมาบอกเล่าเรื่องราวของนกอินทรีที่มีการสูญพันธุ์
ถ้าหากผิดพลาดตรงไหนก็ต้องขออภัยไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ เอาหละไปชมกันเลย
? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?
? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?
Haast s eagle ชื่อของนกอินทรีสายพันธุ์หนึ่งที่มีความเก่าแก่และมีความน่าสนใจมาก
อารมณ์และนิสัยของนกอินทรีฮาสต์
นกอินทรีของฮาสต์เป็นเหยื่อของนกขนาดใหญ่ที่บินไม่ได้ในสมัยก่อนรวมทั้งนกโมอา ซึ่งมีน้ำหนักมากถึงสิบห้าเท่าของนกอินทรี จะงอยปากขนาดใหญ่ของมันยังสามารถใช้ฟันเข้าไปในอวัยวะภายในของเหยื่อ
และการตายนั้นอาจเกิดจากการสูญเสียเลือด เนื่องจากไม่มีสัตว์นักล่าขนาดใหญ่อื่นๆ หรือ kleptoparasites นกอินทรีของ Haast จึงสามารถผูกขาดการฆ่าครั้งใหญ่เพียงครั้งเดียวในหลายวัน
การสูญพันธุ์ของนกอินทรีฮาสต์
จนกระทั่งการล่าอาณานิคมของมนุษย์เมื่อไม่นานมานี้ซึ่งนำสัตว์ฟันแทะและแมวสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบนบกที่มีรกเพียงชนิดเดียวที่พบบนเกาะนิวซีแลนด์คือค้างคาวสามชนิด
นกยึดครองหรือครอบงำช่องสำคัญทั้งหมดในนิเวศวิทยาของสัตว์นิวซีแลนด์ โมอาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมซึ่งมีหน้าที่คล้ายกับกวางหรือวัวในแหล่งที่อยู่อาศัยอื่นๆ และนกอินทรีของฮาสต์เป็นนักล่าที่เติมเต็มช่องทางเดียวกับนักล่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเฉพาะกลุ่มเช่นเสือหรือสิงโต
? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?
? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?
การศึกษาหนึ่งประมาณจำนวนประชากรทั้งหมดที่ 3,000 ถึง 4,500 คู่ผสมพันธุ์ดังนั้นนกอินทรีของฮาสต์จะมีความเสี่ยงอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงจำนวนโมอา
ผู้ตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ในยุคแรกๆ ในนิวซีแลนด์ (บรรพบุรุษของชาวเมารีมาถึงราวปี ค.ศ. 1280) ได้ล่านกขนาดใหญ่ที่บินไม่ได้รวมทั้งโมอาทุกชนิดในที่สุดก็ล่าพวกมันจนสูญพันธุ์ไปในราวปี ค.ศ. 1400 การสูญเสียเหยื่อหลักของมันทำให้นกอินทรีของฮาสต์สูญพันธุ์ในเวลาเดียวกัน
ชาร์ลส์เอ็ดเวิร์ดดักลาสนักสำรวจและนักสำรวจผู้มีชื่อเสียงกล่าวอ้างในวารสารของเขาว่าเขาได้พบกับแร็พเตอร์ขนาดมหึมาสองตัวในหุบเขาแม่น้ำแลนด์สโบโรห์ อาจเป็นช่วงทศวรรษที่1870 และเขายิงและกินพวกมัน แต่พวกเขาอาจเคยเป็นอุปสรรคของอายเลส
บทความโดย sagame66
? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?